วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

น้ำท่วมโลก3

คับ จงภูมิใจ แล้วทางสหรัฐ อมริกา ให้เงินเดือน 20 เท่า ในสมัยนั้น มีจำนวนเงิน คือ 1ล้าน บาทต่อ เดือน แต่ถ้าเป็นค่าเงินสมัตนี้คือ 10-15 ล้านบาทต่อเดือนเลยทีเดียว ใครที่ดูที่นี้หมอชิตทางช่อง-7เมื่อวานคงจะรู้นะคับว่า ท่านได้บอกว่าเราตอนนี้โลกเรากำลังแย่เนื่องจากเหตุหลายๆอย่างเท่าๆที่ผมจำได้นะคับท่านบอกว่า โลกเรานี้ที่อยู่ได้เพราะต้นไม้ แต่ตอนนี้มีเหตุการณ์ที่จะทำให้เราตายกันหมดนั้นก็คือ แกรนกลางของโลกนั่นจะหยุดหมุนและไม่ทำงานนั้นทำให้ สนามแม่เหล็กต่างๆบนโลกนี้ไม่มีความสมส่วนและไม่พอดีกัน ส่งผลคือทำโลกร้อนขึ้นมากๆ ชั้นบรรยากาศ ทำน่าทีคือ ป้องกันสิ่งผิดปกติจากนอกโลกเช่น สารพิษ แสงแดด ที่รุ่นแรง ดาวหาง อุตกาบาท และที่แปลกปลอมจากนอกโลกอีกมากมาย ถ้าแกรนของโลกหยุดหมุ่นไม่ทำงาน นั้นก็คือเกิดเหตุการ น้ำแข็งขั่วโลกเหนือ และ ใต้จะละลาย แผ่นดินไหวหนักมากๆและบ่อยมากๆ ภูเขาไฟระเบิด หรือเกิดการ์ณทางธรรมชาติต่างๆทืเราไม่สามารถระบุได้ ท่านได้บอกว่าถ้ายังไม่ประหยัดพลังงานตั้งแต่ตอนนี้เราคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานหลอกคับ และท่านยังบอกว่าเหตุการณ์จากคลื่นยักสึนามิทำให้แผ่นดินนั้นแตกและทำให้น้ำเข้าไปยังแกรนกลางของโลกเลยทำให้มีปัญหาคือแผ่นดินไหวบ่อยครั้งตรงจุดนั้น อีก 10ปี ข้างหน้าหรือไม่ถึง 10ปีข้างหน้านี้จะเกิด เหตุการณ์ ภัยพิบัติอย่างร้ายแรง เนื่องจากโลกเราตอนนี้อยู่รอดเนื่องจาก มีต้นไม้ ใบไม้ ที่ช่วยโลกเราไว้ นั่นหมายถึง ใบไม้เอา ก๊าชคาร์บอนไดร์ออกไซด์ นั่นไป แล้วผลิตออกมาคือก๊าชอ๊อกซิเจน (ถ้าเขียนผิดขอโทษด้วยคับ) นั่นก็คือว่า ใบไม้ต่างๆนี้ได้ดูดวามร้อนแล้วได้ระบายออกมาเป็นก๊าชออกซิเจน ให้เราใช้ถึงทุกวันนี้ แต่ตอนนี้ โลกเราใช้พลังงานเยอะขึ้น ทุกวันๆแล้ว ตัดไม้ทำลายป่าทุกวัน เลยทำให้โลกเราร้อนขึ้นทุกวันอย่างเห็นได้ชัด เลยทำให้มีเหตุการณ์ตอนนี้คือ แผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ภูเขาไฟ ระเบิด และ ตอนนี้น้ำแข็งที่ ขั่วโลกเหนือและ ขั่วโลกใต้ เริ่มละลายแล้ว แล้วเป็นแบบนี้มาทุกปีแล้ว มีรายงานเข้ามาว่าน้ำเพิ่มขึ้นเมื่อก่อนปีละแค่ 1 มิลลิเมตร แต่ตอนนี้เพิ่ม 4-5 มิลลิเมตร อีกไม่นานคงจะน้ำทั่วโลกแน่ๆ เราทุกคนต้องตายจริงหรอ ผมอยากให้คุณทุกๆคน ได้โปรดช่วยประหยัดงาน อย่าตัดไม้ทำลายป่า แก้ไข ปัญหานี้ตั้งแต่ตอนนี้ แต่ท่าหน่วยงานทั้งหลาย อย่าได้ปิดบังข่าวนี้เลยคับ ผมขอร้องละ กรุณาช่วยกันคับ เพื่อโลกเรา และชีวิตของคุณ
กรุณาช่วยลงความคิดเห็นหน่อยคับ ถ้าช่วยขุดด้วยจะยิ่งดีมันมีประโยชน์ต่อเรามากๆ
หน้าแรกๆนี้คนเล่นสนุกมากไปหน่อยจนลืมเนื้อหาของกระทู้นี้ไปหน้าหลังๆจะเริ่มมีหลังการแล้วนะคับ เว๊บข้างล่างนี้คือหลักฐานจากอีกเว๊บนึงคับ เทียนชัย กระทบกับโลกแต่บอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ แล้วก็ตอบไม่ได้ว่าการละลายจะเป็นแบบไหน มันอาจจะมีได้ 2 แบบ คือ แบบที่ละลายไปเรื่อยๆ ปัจจุบันอยู่ในช่วงละลายไปเรื่อยๆ สมัยก่อนมีนักหนังสือพิมพ์อยู่ตรงไหนก็ถ่ายได้ แต่สมัยนี้จะยืนถ่ายตรงไหนต้องระวังต้องหาจุดตั้งให้ดี ถ้าจุดตั้งไม่มีมันยุบลงไปเลย เพราะฉะนั้นนี่เป็นยุคที่น้ำแข็งละลายค่อนข้างมาก อีกสักพักจะเกิดการเสียสมดุลใหญ่แต่บอกไม่ได้ แต่มีแนวโน้มจะเป็นเช่นนั้น แต่เรื่องที่เป็นอันตรายกว่าน้ำแข็งละลาย คือ ผลเอฟเฟ็กที่จะมีให้อุณหภูมิโดยทั่วไปของโลก แต่รุนแรงแค่ไหนบอกไม่ได้เหมือนกัน แต่จะทำให้ร้อนขึ้นหรือเย็นลง ซึ่งดุลความร้อนของโลกจะเกิดการเคลื่อนตัวครั้งใหญ่เป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ของระบบ
น.พ.ประสาน อาทิตย์ที่แล้วช่องบีบีซีเวิลด์ลงข่าวว่านักวิทยาศาสตร์ที่กรีนแลนด์ไปทำการสำรวจและตามติดที่นั่นเป็นปีๆ แล้วสรุปผลการละลายของน้ำแข็งเฉพาะที่กรีนแลนด์อย่างเดียวมีปริมาณเท่ากับ 1 ตันต่อวัน ถ้าคำนวณการใช้น้ำของคนในนิวยอร์กในเวลา 1 เดือนจะท่ากับน้ำที่ละลายในกรีนแลนด์ 1 วัน น้ำทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกก็จะละลายหมดหรือใกล้หมดในช่วงเวลาประมาณ 5-7 ปี หากมองว่ากรีนแลนด์ที่อยู่ไกลๆ ขั้วโลกเหนือเป็นการการละลายของน้ำในแก้ว นั้นก็หมายความว่าจะมีน้ำจำนวนมากขึ้นมากกว่าเก่า แล้วบนน้ำแข็งบนยอดเขาหิมาลัย หรือบนยอดเขาต่างๆ รวมทั้งที่ขั้วโลกใต้ซึ่งก็ละลายเช่นเดียวกัน
ขณะที่อุณหภูมิที่ขั้วโลกเหนือและใต้สูงกว่าปกติถึง 6 องศาเซลเซียส ปีที่แล้ว 2.5 องศาก็แย่แล้วแต่นี่ขึ้นถึง 6 ถ้ารวมทั้งหมดแล้วน้ำแข็งก่อนยุคอุตสาหกรรมเรามีน้ำแข็ง19 ร้อยล้านตัน ถ้าละลายออกไปวันละ 1 ล้านตัน จะใช้เวลาตามที่ผมคำนวณ 5-7 ปี คือ ประมาณปี 2012 ตัวเลขตรงนี้หน้าคิด ซึ่งเป็นตัวเดียวกับตัวเลขที่ชาวเผ่ามายาคำนวนขึ้น (ชาวมายา ได้ทำปฏิทินจำนวน 22 เดือน โลกหมุนเวียนพระอาทิตย์ 365.222 ตรงกับทุกอย่าง ดาราศาสตร์ตรงกับของชาวมายาพอดี แต่พอปี 2012 ทุกอย่างหยุดทั้งหมด) ขณะเดียวกันผู้แสวงหาความรอด ความดีงาม ถ้าไม่มีกิเลส ไม่มีวิกฤตจะมีอกิเลสหรือ เป็นเพราะเราแสวงหาต่างหาก สิ่งนั้นจะกระทบจิตใจของเรา ว่าเรารับได้หรือไม่ เราต้องพบอุกกาบาตยักษ์ เสียว17ปี พุ่งเข้าถล่มโลก
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ปรากฏการณ์ในจักรวาลอันลี้ลับ ซึ่งอาจก่อให้เกิดมหันตภัยต่อมวลมนุษยชาติและ!โลกอย่างใหญ่หลวง ครั้งนี้ถูกเปิดเผยโดยเว็บไซต์ของบรรษัทกระจายเสียงอังกฤษ (บีบีซี) เมื่อวันพุธที่ 24 ก.ค. ว่า อุกกาบาต"NT 7" (เอ็นที 7) 2002 ซึ่งนักดาราศาสตร์เพิ่งตรวจพบเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน กลายเป็นเทหวัตถุในอวกาศ ที่มีความเสี่ยงจะพุ่งชนโลกมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ และอาจจะชนโลกในวันที่ 1 ก.พ. 2562 หรือ 17 ปีข้างหน้าแม้จะยังมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แต่ถ้าชนโลกจริงจะรุนแรงถึงขั้นทำลายล้างทวีปใดทวีปหนึ่งทั้งทวีป โครงการหอสังเกตการณ์ท้องฟ้าอัตโนมัติ "ลิเนียร์" ในนิว เม็กซิโก ตรวจพบอุกกาบาต NT 7 ครั้งแรกเมื่อ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา พบว่าโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใช้เวลา 837 วัน มีวงโคจรเอียง มีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ราวๆวงโคจรระหว่างโลกกับดาวอังคาร ซึ่งจากความสว่างเจิดจ้าของอุกกาบาตประมาณว่ามันมีความกว้างถึง 2 กม.ใหญ่พอที่จะทำลายล้างทวีปใดทวีปหนึ่งทั้งทวีปถ้าพุ่งชนโลก จากการคำนวณในเบื้องต้น พบว่ามีวิถีโคจรที่อาจพุ่งชนโลกในวันที่ 1 ก.พ. 2562 หรืออีก 17 ปีข้างหน้าถึงแม้โอกาสดังว่าจะมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แต่นักดาราศาสตร์จัดระดับความเสี่ยงทางเทคนิคที่จะชนโลกตามมาตรา "พาเลอร์โม" ไว้ถึง 0.06 ซึ่งนับเป็นเทหวัตถุในอวกาศชิ้นแรกที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดจนถึงระดับเป็นบวก ด็อกเตอร์เบนนี ไพเซอร์ แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น มัวร์ส ในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ เผยในข่าวออนไลน์ ของบีบีซีว่า "ขณะนี้อุกกาบาต NT 7 กลายเป็นเทหวัตถุในอวกาศที่มีภัยคุกคามต่อโลกมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ระยะสั้นของการตรวจหาอุกกาบาตในอวกาศ" และจากการคำนวณวงโคจรอย่างละเอียดบ่งชี้ว่ามีหลายโอกาสที่จะโคจรเข้ามาประสานงากับโลก ซึ่งถ้าพุ่งชนโลกใน 1 ก.พ. 2562 จริง จะพุ่งเข้าชนด้วยความเร็วถึง 28 กม.ต่อวินาที รุนแรงถึงขั้นทำให้ทั้งทวีปหายวับไปกับตาและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพบรรยากาศบนโลกครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ดร.ไพเซอร์ชี้ว่า การเฝ้าสังเกตการณ์ในอนาคตอาจช่วยเปลี่ยนสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้ หลัง NT 7 ถูกค้นพบ นักดาราศาสตร์จำนวนมากทั่วโลกต่างเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดเกือบ 200 ครั้งแล้ว และถึงแม้จะชี้ว่ามีอันตรายควรแก่การจับตามอง แต่ก็ยังคาดหวังจะให้มีการสังเกตการณ์มากกว่านี้ เพื่อให้รู้แน่ชัดว่ามีวิถีโคจรที่จะพุ่งชนโลกจริงหรือไม่เพียงใดโดยจะสามารถสังเกตเห็นได้ง่ายใน 18 เดือนข้างหน้าหรือราวๆ นั้น ซึ่งหมายความว่ายากที่ร่องรอยจะหายไป ส่วนด็อกเตอร์โดนัลด์ เยโอแมนส์ แห่งศูนย์ทดลองพลังขับดันเจ๊ตขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ในรัฐแคลิฟอร์เนียเผยว่าวงโคจรของ NT 7 เอียงเข้าหาวงโคจรของโลกค่อนข้างมาก ดังนั้น แต่ก่อนจึงตรวจหาไม่พบ เพราะปกตินักดาราศาสตร์มักจะไม่ค้นหาเทหวัตถุในอวกาศในท้องฟ้าบริเวณนั้น อย่างไรก็ตาม ค่าความผิดพลาดในการที่จะคำนวณว่าอุกกาบาต NT 7 โคจรอยู่ตรงไหนในวันที่1 ก.พ. 2562 มีสูงมาก และต่อไปชาวโลกอาจคุ้นเคยกับการค้นพบเทหวัตถุในอวกาศที่มีความเสี่ยงจะพุ่งชนโลกเช่นอุกกาบาต NT 7

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น